สร้างแบรนด์นักเขียนให้คนจำชื่อได้บนโลกออนไลน์
ในยุคที่ใครๆ ก็สามารถเป็นนักเขียนออนไลน์ได้ การเขียนเก่งอย่างเดียวอาจไม่พออีกต่อไป เพราะสิ่งที่จะทำให้คุณแตกต่าง คือ การสร้างแบรนด์นักเขียน ให้คนจำชื่อได้บนโลกออนไลน์ ไม่ว่าคุณจะรับจ้างเขียนบทความ ขายอีบุ๊ก หรือให้บริการเขียนคอนเทนต์บนโซเชียล การมีแบรนด์ชัดเจนจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณมีลูกค้าประจำ มีผู้ติดตาม และสามารถตั้งราคางานได้สูงขึ้นอย่างมืออาชีพ
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักเทคนิคการวางตัวตน สื่อสารแบรนด์ และทำให้คนจดจำชื่อคุณได้แบบไม่ต้องพยายามขายตัวเองจนดูน่ารำคาญ พร้อมตัวอย่างจริงและวิธีที่ทำได้ทันที
1. วางตัวตนของคุณให้ชัดว่า “คุณเขียนแบบไหน”
การสร้างแบรนด์นักเขียนไม่ใช่แค่ตั้งชื่อเท่ๆ หรือมีโลโก้ แต่คือการบอกให้โลกรู้ว่าคุณเป็นนักเขียนแบบไหน และคุณเหมาะกับใคร ตัวตนที่ชัดจะทำให้ลูกค้าเลือกคุณได้ง่ายขึ้น เช่น:
- คุณเขียนแนวไหน: บทความสายสุขภาพ, ธุรกิจ, แฟชั่น หรือแนววิเคราะห์
- โทนเสียงของคุณ: เป็นกันเอง ดุดัน มีอารมณ์ขัน หรือจริงจัง
- จุดยืนของคุณ: เช่น “เขียนคอนเทนต์สายธุรกิจที่อ่านง่าย เข้าใจไว”
เขียนโปรไฟล์ของตัวเองให้ชัดเจนในทุกช่องทาง เช่น Facebook, เว็บไซต์ส่วนตัว, Line OA หรือ Medium เพื่อให้คนจดจำและแชร์ต่อได้ง่าย
2. ตั้งชื่อแบรนด์หรือใช้นามปากกาที่จำง่าย
การตั้งชื่อเล่นหรือนามปากกาให้จำง่ายจะช่วยให้คนติดปากและบอกต่อได้เร็ว เช่น “เจนเขียนไว”, “นักเขียนสายแซ่บ”, หรือ “เขียนด่วน24ชม.” ไม่ต้องซับซ้อน แค่ให้อ่านแล้วรู้ว่าเกี่ยวกับอะไร และจำได้แม้เจอกันแค่ครั้งเดียว
หากคุณต้องการดูตัวอย่างการตั้งชื่อแบรนด์ส่วนตัว ลองดูแนวทางจาก บทความนี้จาก 99designs ซึ่งแนะนำหลักการตั้งชื่อแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์
3. ใช้คอนเทนต์เป็นตัวแทนความคิดของคุณ
การเขียนโพสต์ในโซเชียลอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยสร้างภาพจำว่า “คุณคือใคร” และ “เขียนเก่งแค่ไหน” โดยไม่ต้องพูดว่าคุณเก่งเอง คอนเทนต์ที่ดีควร:
- สะท้อนแนวคิดของคุณ เช่น เทคนิคเขียนแบบคุณ, ปัญหาที่คุณเคยเจอ, หรือแนวคิดเรื่องการตลาด
- มีโครงเรื่อง มีน้ำเสียงเฉพาะ เช่น ใส่มุกตลกบางจุด หรือเล่าเรื่องส่วนตัวบ้าง
- ทำให้คนอยากแชร์ เช่น ให้แรงบันดาลใจ, มีคำคม, หรือมี Checklist สำหรับนักเขียน
ลองตั้งเป้าว่าในแต่ละสัปดาห์จะเขียนโพสต์แนวความรู้ 1 โพสต์ และโพสต์เบื้องหลังการทำงานอีก 1 โพสต์ เพื่อให้คนติดตามเห็นภาพว่าคุณ “เขียนจริง” และ “เขียนดี”
4. มีแพลตฟอร์มหลักที่เป็นบ้านของแบรนด์คุณ
คุณไม่จำเป็นต้องเล่นทุกช่องทาง แต่ควรมี “แพลตฟอร์มหลัก” สักหนึ่งที่ที่คนสามารถติดตามคุณได้เต็มที่ เช่น:
- Facebook Page: เหมาะกับคนชอบเล่าเรื่อง แชร์ความรู้
- Website หรือ Blog ส่วนตัว: เหมาะกับสายเขียนจริงจัง มีผลงานเยอะ
- Medium หรือ Blockdit: สะดวกในการรวบรวมบทความยาว
อย่าลืมใส่ชื่อ แฮชแท็ก หรือโลโก้ของคุณในทุกบทความ เพื่อทำให้แบรนด์ค่อยๆ ติดตาผู้อ่าน
5. ทำพอร์ตผลงานให้น่าสนใจและดูมืออาชีพ
นักเขียนที่มีพอร์ตดี มีชัยไปกว่าครึ่ง พอร์ตไม่จำเป็นต้องเยอะ แต่ควรเลือกงานที่ “ตรงกลุ่มเป้าหมาย” ที่คุณอยากได้ลูกค้า และนำเสนอให้น่าสนใจ เช่น:
- ทำไฟล์ PDF รวมบทความที่ดีที่สุด พร้อมชื่อคุณ และคำอธิบาย
- สร้างหน้า Portfolio ในเว็บไซต์ (ใช้ Notion ก็ได้)
- จัดหมวดหมู่ เช่น สายสุขภาพ, สายท่องเที่ยว, หรือสายเทคนิค
ความน่าเชื่อถือของคุณจะเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อมีตัวอย่างให้ดูจริง และยิ่งถ้ามี Testimonial จากลูกค้าด้วยจะยิ่งช่วยมาก
6. มีแนวคิดและบุคลิกเฉพาะที่ทำให้คนรู้ว่า “นี่แหละคุณ”
นักเขียนที่เป็นที่จดจำมักมี “คาแรกเตอร์” ที่ชัด เช่น:
- เขียนเรียบง่ายแต่คม
- เขียนฮาแบบจริงจัง
- เล่าเรื่องได้เหมือนอ่านนิยาย
อย่ากลัวที่จะแสดงความเป็นตัวเองผ่านงานเขียน ไม่ต้องตามสไตล์คนอื่นทุกอย่าง ความแตกต่างนี่แหละจะเป็นจุดที่คนจดจำ
7. บริการดีจนลูกค้าแชร์ต่อให้เอง
แบรนด์จะดังแบบไม่ต้องโฆษณา ถ้าคุณดูแลลูกค้าดี ทั้งก่อนและหลังการจ้างงาน เช่น:
- ตอบไว มีมารยาท
- ส่งงานตรงเวลา
- มีระบบแก้งานที่ยืดหยุ่น
ลูกค้าที่ประทับใจมักจะแชร์ต่อ และสิ่งนี้จะช่วยให้ชื่อของคุณถูกพูดถึงแบบปากต่อปากในวงการนักเขียน
พร้อมสร้างแบรนด์นักเขียนของตัวเองแล้วหรือยัง?
อย่ารอให้มีชื่อเสียงแล้วค่อยเริ่มสร้างแบรนด์ แต่ให้เริ่ม “สร้างแบรนด์” แล้วชื่อเสียงจะตามมา หากคุณยังไม่แน่ใจว่าต้องเริ่มตรงไหน ลองเริ่มจากการปรับโปรไฟล์ให้ดูมืออาชีพ โพสต์เนื้อหาที่มีประโยชน์ และเก็บพอร์ตไว้ในที่เดียว
หากต้องการคำปรึกษาแบบเจาะจงเกี่ยวกับการทำแบรนด์นักเขียนในสายของคุณเอง ทีมเราพร้อมช่วยวางแผนตั้งแต่การตั้งชื่อ โปรไฟล์ จนถึงการออกแบบภาพลักษณ์ที่ทำให้คนจดจำคุณได้
แอดไลน์ @mmd4525f แล้วเริ่มวางตัวตนใหม่บนโลกออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้!